วัดภูทอกจังหวัดบึงกาฬ วัดที่อยู่บนเขา ถ้าเพื่อนๆกำลังหาสถานที่ไปทำบุญ หรือไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว วันนี้ เว็บหวยสด มีสถานที่ ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสูง ที่ชอบขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติบนภูเขา พร้อมกับได้ไหว้พระ และขอพรเสริมสิริมงคลในชีวิต ซึ่งสถานที่ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก็คือ วัดภูทอกจังหวัดบึงกาฬ วัดที่มีทางเดินอยู่ริมหน้าผา มาดูกันว่า วัดแห่งนี้จะมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และจะมีความสูงและความสวยงามขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้ว ก็ตามไปดูพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
ประวัติและความเป็นมาของ วัดภูทอกจังหวัดบึงกาฬ

“วัดเจติยาคีรีวิหาร” หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ “วัดภูทอก” มีฐานะเป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ที่ บ้านคำแคนพัฒนา ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งวัดแห่งนี้นั้นตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูทอก โดย “ภูทอก” เป็นภูเขาหินทราย เป็นคำภาษาอีสาน ที่แปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ซึ่งประกอบไปด้วยภูทอกน้อย และภูทอกใหญ่ และวัดแห่งนี้ ตั้งอยู่บนภูทอกน้อย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2483 โดย พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ และทางเดินสะพานไม้ก่อสร้างโดย พระ สามเณร และชาวบ้านที่มีแรงศรัทธา ซึ่งเริ่มก่อสร้าง ในปี พ.ศ. 2512 และใช้เวลานานถึง 5 ปี
โดยวัดภูทอก Huaysod จะบอกว่าเป็นวัดที่มีขนาดความสูงเมื่อวัดจากฐานถึงยอดได้ 460 เมตร ซึ่งทางขึ้นจะเป็นบันไดเรียงขั้นตามชั้นต่าง ๆ และสะพานไม้วนแบบ 360 องศา มีทั้งหมด 7 ชั้น เป็นสถานที่ทำบุญที่เหมาะกับคนชอบความสูงเป็นอย่างมาก และมีความเชื่อกันว่า ถ้าใครที่ขึ้นไปถึงจุดสุงสุดของ วัดภูทอก จะถือว่า ได้หลุดพ้นจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งปวง เนื่องจากต้องใช้ความพยายาม และต้องมีสติระหว่างทางเดินเป็นอย่างมาก ในการขึ้นมาถึงยอดภูทอกได้
จุดเด่นของ วัดภูทอก
สะพานไม้ 7 ชั้น

- ชั้นที่ 1 จะเป็นการเริ่มขึ้นบันไดไม้ โดยบริเวณรอบๆจะมีพรรณไม้ต่าง ๆ หลากหลายสายชนิดให้ชมตลอดทาง
- ชั้นที่ 2 ก็จะคล้ายๆกับชั้นที่ 1
- ชั้นที่ 3 จะเป็นจุดเริ่มของสะพานไม้เวียนรอบเขา ซึ่งมีสภาพเป็นป่า ลานหิน และมีโขดหิน โดยจะมีทางแยก 2 ทาง ทางฝั่งซ้าย จะเป็นทางลัดไปชั้นที่ 5 แต่จะเป็นทางชันมาก ต้องเดินผ่านอุโมงค์มืด ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4
- ชั้นที่ 4 จะเป็นสะพานไม้เวียนรอบเขา ถ้ามองไปช้างล่างจะเห็นเป็นเนินเขาเตี้ยๆสลับกัน โดยเรียกว่า “ดงชมพู” และบนชั้นที่ 4 จะเป็นที่พักของแม่ชี โดยรอบชั้น มีระยะทางประมาณ 400 เมตร
- ชั้นที่ 5 หรือ ชั้นกลาง เป็นชั้นที่มีศาลาพระพุทธรูป ให้สักการะ มีกุฏิของพระสงฆ์ แทรกอยู่ตามช่องหินที่เป็นทางเดิน และมีถ้ำหลายถ้ำ โดยจะมีสะพานหินธรรมชาติที่ทอดสู่พุทธวิหาร ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่จะมีลักษณะแปลก คือ จะเป็นหินแยกตัว ออกมาจากหินก้อนใหญ่ แต่ไม่ตกลงมา และมีสะพานไม้เชื่อมต่อระหว่าง สะพานหินกับพุทธวิหาร ซึ่งถ้ามองออกไป ก็จะเห็นแนวของภูทอกใหญ่
- ชั้นที่ 6 เรียกได้ว่า เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด โดยตลอดทางเดิน จะเป็นหน้าผายื่นออกมา และแต่ละจุด จะมีชื่อของหน้าผาที่ต่างกัน เช่น ผาเทพนิมิต ผาเทพสถิต และผาหัวช้าง โดยในช่วงฤดูหนาว จะมีทะเลหมอกลอยรอบๆยอดภู ซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยมาก
- ชั้นที่ 7 จะเป็นสะพานไม้เวียนรอบเขา มีความยาว 400 เมตร ซึ่งเกาะติดอยู่ริมหน้าผาสูงชัน เป็นที่น่าหวาดเสียวและอันตราย โดยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจุดเด่น คือ ปากทางเข้าเมืองพญานาค ซึ่งจะอยู่หลังพระปางนาคปรก สังเกตได้จาก รอยสีขาวที่ขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นรอยที่เกิดจากท้องพญานาคสัมผัสกับหิน และที่ชั้นนี้ จะมีบันไดไม้พาดขึ้นไป จะเจอทางแยก 2 ทาง เพื่อขึ้นไปบนดาดฟ้า โดยทางแรกเป็นทางที่ชัน เดินค่อนข้างลำบาก ควรใช้อีกทางหนึ่ง ที่เป็นทางอ้อม โดยเดินเวียนไปทางขวา แต่ก็จะมาบรรจบกันที่ด้านบน หรือดาดฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าโปร่ง มีขนาดเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวัภูทอก จังหวัดบึงกาฬ ที่ หวยสด ได้นำมาให้เพื่อนๆได้รู้จักกันในวันนี้ ถ้าใครที่ชอบทำบุญและชอบความท้าทาย ก็ต้องไปที่วัดแห่งนี้กันให้ได้นะคะ ซึ่งวัดแห่งนี้ จะเปิดทำการทุกวัน ในเวลา 06.00 – 18.00 น.
หากท่านสนใจเป็นสมาชิกกับเราแค่เพียง คลิก สมัครสมาชิกหวยสด แค่ไม่กี่ขั้นตอนท่านก็สามารถรับทราบข่าวสารและสาระดี ๆ ได้ทุกวัน